The Time It Takes ซีรี่ย์ทางฝั่งประเทศสเปนอีกเรื่อง ที่เกี่ยวกับความรักตั้งแต่ตอนเริ่มต้นที่สมหวัง จนถึงวันที่เลิกรักกัน ซี่งหากเป็นในชีวิตจริง เราอาจจะค่อยๆ ซึมซับความรู้สึกทั้งความสุข และการร้องไห้ทีละช่วงเวลา ซี่งหากเป็นตอนอินเลิฟกัน เราคงมองว่าแต่ละวัน แต่ละครั้งที่มาเจอกันมันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในตอนที่ทะเลาะ หรือแยกทางกันแค่นาทีเดียว ก็ยังดูเหมือนกว่าจะผ่านไปเหมือนเป็นเดือน
อาจจะมองว่าเป็นเหมือนลิมิเต็ด ซีรี่ย์สำหรับหนังรักเรื่องนี้ รวมถึงในแต่ละตอนก็มีความยาวเพียงแค่สิบนาทีกว่าๆ เท่านั้น โดยมีทั้งหมด 10 ตอน และตัวละครหลักมีแค่ พระเอกอย่าง นิโคล และนางเอกอย่างลีน่าเพียงเท่านั้น เลยดูเหมือนเป็นหนังที่เป็นแนวคล้ายใต้ดิน หรือมินิมอล โครงสร้างเนื้อหาที่ไม่ได้กว้าง หรือมีอะไรที่ซับซ้อนมากมาย เพียงแค่คนเขียนบทต้องการเจาะ ให้เรามองที่คู่คนรักทั้งสอง ทั้งในช่วงที่ยังไม่รู้จักกัน เรียนรู้และรักกันแบบถึงจุดอิ่มตัว และอาการที่หมดรัก รวมถึงการแยกจากกันในแบบที่ยังมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่
The Time It Takes จุดเริ่มต้นที่ยังมองไม่เห็นจุดจบ
ในช่วงเวลาที่เราเริ่มที่จะชอบ หรือปักหลักว่ารักคนนี้แน่ๆ แล้ว คงไม่มีใครสักคน จะมองเห็นจุดสุดท้ายของชีวิตคู่แต่ละคน ที่จะจบลงด้วยการบอกเลิก หรือเข้ากันไม่ได้ เพราะเราต่างหวังที่จะไปกับคนที่เรารักให้ตลอดรอดฝั่งกันทุกคน ยิ่งกว่านั้นการตั้งรับกับสิ่งที่ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นการขอเลิก เพราะหมดใจ หรือแอบมีความสัมพันธ์กับคนอื่นโดยที่เราไม่รู้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายทุกคน ที่จะต้องตั้งรับ และยอมรับให้ได้ อย่างลีน่าที่ยอมรับว่า ไม่ง่ายเลยสำหรับการดึงใจเรากลับมา จากคนที่เรารักมาก
สำหรับบางคนในเรื่องราวอย่าง The Time It Takes ก็บอกว่าเสียเวลา ไม่น่ามาเจอกันเลย อย่างที่นิโคลพูดด้วยอารมณ์ในช่วงเวลาที่ทะเลาะกัน แต่สำหรับอีกบางคน มุมมองที่มีต่อความรักก็ยังคงมีความสวยงามเหมือนเดิม ถึงแม้จะทำให้เจ็บปวด เพราะอย่าลืมว่าที่ผ่านมา ความรักก็ทำให้เรายิ้ม และมีกำลังใจในทุกวัน ที่จะทำทำอย่างให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม
หนังเรื่องนี้มีความเป็นเอกลักษณ์อยู่อย่างคือ การใช้ลูกเล่นในการตั้งชื่อตอนของซีรี่ย์ ที่นับเป็นเวลา เหมือนคนที่ปรับสภาพตัวเองหลังเลิกราจากกัน การค่อยๆ ลืมตัวตนของคนที่เราเคยรัก ต้องค่อยๆ ลบภาพ หรือความรู้สึกเหล่านั้นทีละนิด และค่อยๆ เพิ่มการอยู่กับปัจจุบันให้ได้มากขึ้นในแบบสวนทางกัน ในแต่ละตอนเลยเป็นการเพิ่มเวลาในปัจจุบัน จากหนึ่งนาทีในตอนแรก และค่อยๆ เพิ่มในแต่ละตอนเป็นนาทีต่อนาที รวมถึงหักลบเวลาในอดีตในนาทีต่อนาทีในขณะเดียวกัน
เผื่อใจไว้อะไรที่คิดเหมือนกัน รับกันได้ในตอนนี้
ที่บอกแบบนี้เพราะว่าอย่าลืม อีกมุมที่เราอาจยังไม่รู้จักอีกฝ่ายดีพอ ทั้งในภาคของความไม่ถูกใจ หรืออารมณ์ฉุนเฉี่ยว คนที่เราบอกว่ารู้จักดีที่สุด หรือรักและรับได้ทุกอย่าง เรายังสามารถพูดแบบนั้นได้อีกหรือไม่ แน่นอนไม่มีใครรู้จักใครดีที่สุด เพราะแม้แต่ตัวคนๆ นั้นยังไม่เข้าใจตัวเองดีพอ
การดูเรื่องราวของทั้งจุดเริ่มต้น การมารู้จักกันของนิโคล และลีน่านั้นก็เหมือนเป็นการรีเพลย์ภาพทรงจำของเราทุกคนย้อนกลับมาก็เป็นได้ ในประสบการณ์ความรักที่เราทุกคนมี และอาจจะสมหวัง หรือผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก จนบางคนกลายเป็นโรคกลัวที่จะรักใครอีก หรือบางคนกลายเป็นคนปิดตัว ปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองไปเลยก็ว่าได้
เรื่องราวความรักระหว่างลีน่า และนิโคลอาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร จริงๆ แล้วอาจเป็นเพียงจุดเสี้ยวเล็กๆ ของประสบการณ์ความรักของเราทุกคนเองด้วยซ้ำ และมากกว่านั้นคือ เราควรที่จะเรียนรู้ว่า The Time It Takes นั้นเป็นจุดสวยงามที่เราเคยมีความสุข และความทรงจำดีๆ ด้วยกัน แต่ในอีกมุมหนี่ง เมื่อไปด้วยกันไม่ได้ เราต่างก็ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในโลกปัจจุบันให้ได้ เพราะไม่แน่การสูญเสียความรักที่ผ่านไป อาจพาให้เราเจอกับความรักที่ดีกว่าในวันนี้ก็เป็นได้
“อ่านบทความซีรีย์อื่นๆได้ที่นี่”
อ้างอิง
https://www.filmaffinity.com/us/film792635.html
สนับสนุนโดย
คาสิโนออนไลน์ / เซ็กซี่บาคาร่า / สล็อตออนไลน์