Baby Fever วงการการทำกิ๊ฟท์ หรือเด็กหลอดแก้ว ที่เกิดจากการผสมเทียม มีการนำมาสร้างเป็นหนังหลายเรื่องทีเดียวในช่วงนี้ อาจเป็นเพราะธุรกิจนี้ นอกจากมีคนสนใจ และมีหลายคู่รักเพิ่มมากขึ้น ที่เจอกับปัญหาต้องการมีลูก แต่มีไม่ได้ รวมถึงการกำหนดเพศเด็กได้ ซี่งทั้งหมดนี้ยังไม่หมดกับ ประโยชน์ที่ได้จากการทำเด็กหลอดแก้ว เพราะนอกเหนือจากนี้ เราสามารถกำหนดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความฉลาดทางด้านไหนเป็นพิเศษ สีผิว ลักษณะเส้นผม สูงเท่าไหร่ ที่สามารถกำหนดได้ก่อนที่เด็กจะเกิด และสิ่งเหล่านี้ทำให้มีหนังแนวนี้ออกมามาก พอๆ กับคู่รักที่สนใจ และพึ่งพรสวรรค์จากหมอในการสร้างเด็กขึ้นมาด้วยฝีมือของมนุษย์
Baby Fever บอกให้เรารู้ว่า ทุกคนไม่มีใครเก่งไปหมดทุกเรื่อง
นานา เป็นหมอที่มีความชำนาญในด้านการผสมเทียม หรือเด็กหลอดแก้ว จนในคลินิกแห่งนี้ แม้แต่ผู้อำนวยการ หรือเจ้าของคลีนิคยังมั่นใจ ที่จะฝากการผสมเทียมที่ตัวเอง ต้องการมีลูกแต่มีไม่ได้ โดยมอบหน้าที่นี้ให้กับนานา เป็นหมอประจำตัว แต่ภายใต้ภาพภายนอก ที่คนไข้ทุกคนที่เข้ามา รวมถึงผู้ร่วมงานในนี้ ต่างมองดูว่า นานาเป็นคนที่มีอายุงาน และประสบการณ์ที่มาก รวมถึงความน่าเชื่อถือ และฝีมือที่ผ่านมา ยอมรับเลยว่าเธอมีฝีมือด้านนี้
เราจะได้เห็นอีกมุมของหมอนานา ที่ถือว่าเป็นตัวละครหลักใน Baby Fever ที่เมื่อเธอนัดซิโมนเน่ ไปโยนโบลลิ่งและคุยกันถึงผู้ชาย ที่นานากำลังเลือกเพื่อจะมาเป็นแฟนของตัวเอง และต้องการให้เป็นสามีในอนาคต ทั้งแฟนคนเก่าที่เคยคบ และคนที่กำลังดูกันอยู่ตอนนี้ ไม่มีใครที่ตรงกับสิ่งที่เธอต้องการเลย บางคนไม่ชอบเด็ก รวมถึงคนที่ผ่านมาประวัติไม่ดี ชอบเที่ยวกลางคืน คำถามที่ยังไม่มีการตอบจากนานาคือ ซิโมเน่เลยบอกไปว่า เธอทำงานด้านนี้ การหาน้ำเชื้อง่ายนิดเดียว แค่ไปธนาคารน้ำเชื้อ เธอต้องการแบบไหนก็มีให้เลือกหมด ทำไมต้องมาวุ่นวายกับการเลือกผู้ชาย ทั้งๆ ที่ความต้องการของตัวเธอมีมากจนไม่คิดว่า จะมีผู้ชายคนไหนเป็นให้เธอได้
เมื่อคำถามค้างไว้ในใจของนานา โดยที่เพื่อนของเธอซิโมเน่ ก็ไม่รู้แต่รู้แค่ว่า นานา เธอเริ่มบอกความในใจ ถึงความไม่เอาไหนของตัวเอง และยอมรับว่าตัวเธอเอง คงเก่งได้แค่เรื่องงานเท่านั้น เพราะขนาดของใช้ในบ้านที่ยังเสียอยู่ ผ่านไปกี่วันก็เสียเหมือนเดิม เหมือนหลอดไฟในบ้าน และนั่นเป็นสาเหตุ ที่ทำไมเวลาเธอเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ต้องเปิดไฟที่มือถือ มันคล้ายกับว่า เธอใส่ใจเรื่องงาน จนละเลยเรื่องส่วนตัว หรือแม้แต่บ้านที่เธออยู่เอง
แค่การตัดสินใจชั่ววูบเดียว ก็ทำให้เราทำสิ่งผิดที่น่ากลัว
ในหลายอาชีพที่จำเป็นต้องมีคำว่า จรรยาบรรณคุมการทำงาน และความรู้สึกผิดชอบของคนทำอาชีพนั้นๆ โดยเฉพาะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ และเป็นความปลอดภัยของคนกลุ่มใหญ่อีกด้วย นานา เป็นหนึ่งในคนที่ทำงาน จำเป็นต้องมีคำๆ นี้เพราะเธอเป็นหมอ ถึงแม้อาจไม่ได้รักษาอาการโรคที่ร้ายแรง แต่การตัดสินใจของเธอ หลังจากเจอแฟนเก่าอย่างแมทเธียสนั้น ทำให้เปลี่ยนอนาคตของเธอตลอดไป
เธอเคยรักกับแมทเธียส ถึงแม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ 6 เดือนแต่ก็ทำให้ความรู้สึก ที่รักมากกว่าคนอื่นๆ และการจากกันก็ไม่ได้เป็นความต้องการของคนทั้งคู่เลย หลังจากที่เจอกันแบบบังเอิญหน้าคลินิก และการสานต่อพูดคุย ก็ทำให้เธอได้ตัดสินใจกลับไปที่ทำงาน ในขณะที่ทุกคนเลิกงานกลับบ้านกันหมด และสิ่งที่เธอทำคือ นำเอาน้ำเชื้อของชายหนุ่มคนนี้ มาฉีดเข้าไปในร่างกายเธอ และนี่คือคำตอบของคำถามที่ ซิโมเน่ถามว่า ทำไมเธอไม่ไปธนาคารน้ำเชื้อ เพื่อตัดปัญหาการเลือกผู้ชายมาเป็นสามี เพราะเธอต้องการคนที่เธอรัก และรู้จักก่อนที่จะนำสิ่งนั้นฉีดเข้าร่างกายตัวเองนี่เอง
หลังจากเหตุการณ์นี้ ถือว่าเป็นการจุดพลอตเรื่อง ให้สามารถไปต่อได้ไกล เพราะในหนึ่งแคปซูล จะมีน้ำเชื้อของแมท มากถึงสิบหลอด ซี่งนานาไม่เพียงแต่ฉีดเข้าที่ตัวเธอ แต่เธอกลับถลำมากกว่านั้น โดยการฉีดเข้าคนไข้ในการดูแลของตัวเธอเองด้วย Baby Fever เลยอาจไม่ใช่เพียงแค่ การที่เรา และอีกฝ่ายที่เป็นคนรักชอบเด็ก และอยากมีลูกเท่านั้น แต่อาจหมายความที่ไกลกว่านั้นคือ การได้ลูกมาก็ควรที่จะถูกต้อง และไม่ล่วงเกินสิทธิของใครด้วย แม้กระทั่งคนไข้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ตาม เพราะเรื่องแบบนี้มีหนังทำออกมาหลายเรื่อง และบางเรื่องก็มีส่วนของเนื้อหา ที่เป็นเหตุการณ์ข่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ แต่หากมองดีๆ เป็นการล่วงเกินสิทธิส่วนบุคคล และในเมืองนอกถือว่า เป็นความผิดร้ายแรงอีกด้วย
