Chef’s Table Pizza พิซซ่าอาหารที่เราคิดว่า อร่อยที่สุดต้องเป็นประเทศต้นแบบอย่างอิตาลีเท่านั้น แต่ใครจะรู้ได้ว่า คริส คนที่ได้รับการยอมรับจาก คนรู้จักในสหรัฐอเมริกาว่าเป็นคนทำพิซซ่าได้อร่อยมากในประเทศนี้ทีเดียว
ในวันนี้ที่ใครหลายคนได้รู้จักคริส ในภาพของคนทำพิซซ่า ที่ใส่ใจในขั้นตอนการทำพิซซ่า และใส่ใจทุกถาดที่นำมาเสิร์ฟให้กับลูกค้า มากกว่านั้นแนวคิดของคริส อาจจะแตกต่างจากร้านทำพิซซ่า หรือคนทำพิซซ่าอีกหลายคน ที่คิดว่าพิซซ่าก็คืออาหารเหมือนๆ กันทุกร้าน แต่ที่จริงแล้ว การค้นหาความอร่อยในตัวของพิซซ่า ที่คริสตามหาและหาสูตรลับมาตลอดว่า อะไรที่จะทำให้พิซซ่าร้านเขา อร่อยและแตกต่างจากคนอื่น และทำอย่างไรให้พิซซ่าที่เขาทำโดดเด่นจากคนอื่นๆ หรือร้านอื่นที่ทำออกมา
Chef’s Table Pizza จากเด็กที่เอาดีด้านการเรียนไม่ได้ มาเป็นเชฟที่มีชื่อเสียง
เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับทักษะ และพรสวรรค์อะไรสักอย่าง แต่ถ้าใครที่ยังหาไม่ได้ว่า เราเก่งหรือมีหัวทางด้านไหน อยากให้ดูตัวอย่างของคริส คนที่ในวัยเด็กเจอปัญหามากมาย ทั้งการมีโรคประจำตัวอย่างหอบ หืด ไม่มีแรง และเหนื่อยง่าย ทำให้ไม่สามารถไปเรียนหนังสือ และการอยู่บ้านเฉยๆ ก็ทำให้คริส ได้เอาตัวไปใกล้ชิดกับทั้ง เพื่อนที่เปิดร้านทำชีส ทำให้เรียนรู้ในการทำชีสสด หรือการรู้จักกับ เชฟด้วยกันที่ทำเส้นพาสต้า นี่คือเส้นทางสายอาชีพ ที่ทำให้ทุกวันนี้ คริสสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี
อุปสรรคอาจไม่ได้เป็นสิ่งที่เราเจอแค่คนเดียว แต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนเลี่ยงไม่ได้ในชีวิต Chef’s Table Pizzaสร้างออกมาเป็นตอนๆ เพื่อนอกจากให้คนดูได้ เพลินไปกับการดูการทำอาหารอย่างพิซซ่าแล้ว ยังเป็นการบอกประสบการณ์ชีวิตของ เหล่าเชฟที่ทำพิซซ่าว่ามีที่มา และในวันนี้ที่มีร้านเป็นของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย และการทำอาหารอย่างหนึ่งออกมา เพียงแค่ลูกค้ากินอิ่ม และหมดจานเท่านั้น แต่ความอิ่มใจ และความรับผิดชอบของคนทำมีมากกว่า เงินที่ได้ หรือมากกว่ารอยยิ้มของลูกค้า แต่เป็นการกลับมาอุดหนุนใหม่ในวันข้างหน้าอีก
บทเรียนและข้อคิดผ่านการบอกของคริส เชฟพิซซ่า
ตั้งแต่การเริ่มซีรี่ย์หนังแบบ documentary กึ่ง food teller นั้น คริสได้บอกแบบตรงๆ ว่า ใครหลายคนเฝ้าหาแต่ สูตรลับการทำพิซซ่าให้อร่อยกว่าที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาแป้งแบบไหน หรือวัตถุดิบอะไรในการนำมาทำ คริสบอกให้เข้าใจง่ายเลยว่า วัตถุดิบไม่ดี พิซซ่าก็ออกมาไม่ดี ง่ายๆ และการรู้อุณหภูมิ รู้ไฟระดับไหนในการอบพิซซ่า ซึ่งเชฟแต่ละคน ก็จะมีพิซซ่าเป็นลายเซ็นของตัวเอง และจะมีลูกค้าที่ติดใจในความเป็นพิซซ่าของเชฟแต่ละคนเท่านั้น
การทำงานของคริส ที่ทุ่มทั้งชีวิตไว้ที่พิซซ่า พิซซ่าคือชีวิตของเขา และครอบครัวคือทุกอย่างของเขาเหมือนกัน เขายังตั้งคำถามว่า หากตัวเขาไม่ได้มีชื่อเสียงเหมือนวันนี้ เขาเดินไปที่ไหน จะมีใครต้อนรับเขาเหมือนอย่างทุกวันนี้หรือไม่ และความภูมิใจของคริสตั้งแต่วันแรก ที่ยังเป็นเด็กฝึกงานทำพิซซ่าอยู่ จนถึงวันนี้ตัวเขาภูมิใจในงานที่เขาทำ และภูมิใจกับการใส่เสื้อยืดสีขาว ผ้ากันเปื้อน ยืนอยู่หน้าเตา และนี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เขายังสามารถยืนเป็นเชฟพิซซ่า ได้เหมือนอย่างทุกวันนี้อยู่
สิ่งที่มีค่าที่สุดหลังจากดูซีรี่ย์เรื่องนี้จบแล้วคือ การมองเห็นความสำคัญของงานที่ตัวเองทำ และความสำเร็จของชีวิตแต่ละคน ไม่ได้มาทางเดียวกัน บางคนไม่ได้มาทางตรง แต่มาทางลัดเป็นทางสายอาชีพเลย และ Chef’s Table Pizza ก็สามารถบอกได้เลยว่า เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนดูหลายคน ถ้ายังหาความสามารถพิเศษของตัวเองไม่เจอ ความมุ่งมั่น และใช้เวลากับสิ่งนั้น เราจะรู้ว่าความสามารถที่เรามีแตกต่างจากคนอื่นๆ นั้นคืออะไร
สนับสนุนโดย เซ็กซี่บาคาร่า168 / แทง บอล ขั้น ต่ำ 1 บาท / sg สล็อต