แต่เข้าใจว่า การที่หนังเรื่องเสนอพลอ ที่ออกจะยากเกินที่จะทำใจให้เขื่อได้ว่า กาารที่เหตุการณเครื่องบินลำหนึ่ง บินขึ้นท้องฟ้า แล้วจู่ๆ ก็หายสาบสูญไปอย่างนั้น เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยที่ต่างไม่มีใครที่หาคำตอบได้ แม้แต่คำอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ เพราะการสร้างเนื้อเรื่องแบบนนี้ ก็หลอกคนดูในช่วงแรกเหมือนกันว่า การที่มีเครื่องบินลำหนึ่ง ขอจอดลงทำไมต้องมี ขบวนรถตำรวจจอดรอ เสมือนเป็นการต้อนรับครั้งยิ่งใหญ่ทีเดียว
แต่หากผู้คน รวมถึงตำรวจไม่บอกว่า ผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องบิน เที่ยวบิน 828 นั้นหายไปพร้อมกันกับเครื่องบินลำนี้ เป็นเวลาตั้งแต่ 2013-2018 ที่จู่ๆ ก็กลับปรากฏตัวครบกันครบทุกคน และมากกว่านั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่า การกลับมาของผู้โดยสารทุกคน รวมถึงกัปตันขับเครื่องบินนั้น มีบางสิ่งที่เหมือนเป็นของแถมมาพร้อมกันด้วย
ไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่า ใจของเราไม่ยอมรับ Manifest คือหนังที่บอกเรา
เมื่อลงจากเครื่องแล้ว นอกจากความยุ่งยากต่างๆ นานา ที่ผู้โดยสารทุกคน ต้องรับภาระมานั่งบอกเล่า ถึงเรื่องราวภายในเครื่องบิน ตั้งแต่เริ่มขึ้นเครื่อง จนถึงช่วงเวลาที่หายไป 5 ปีนั้น ไปอยู่ไหนมา และมีเหตุการณ์อะไรบนเครื่องบิน ที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องเหล่านี้
แต่เชื่อหรือไม่ว่า ช่วงแรกของการดู เราทุกคนต่างต้องยอมรับกับ ความอึมครึมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่มีใครที่จะบอกว่า นี่คือเรื่องธรรมดาของการหายไปของกลุ่มคนบนเครื่องบิน แต่ยิ่งเค้นหาความจริง หรือคำตอบเท่าไหร่ ก็เหมือนการควานหาความจริงในก้อนเมฆ ที่สุดท้ายก็คว้าอะไรไม่ได้เลย
เพียงแต่มีสิ่งหนึ่ง ที่ไม่มีใครในทีมตำรวจ จะรู้นอกจากตัวของผู้โดยสารทุกคน บนเครื่องบิน 828 ลำนี้ที่จะสามารถรับรู้ด้วยตัวของแต่ละคนเอง เพราะจะเรียกว่า สิ่งแปลกประหลาด หรือบางคนเรียกว่า นิมิต ที่เริ่มเกิดกับตัวนางเอกก่อน และคนอื่นๆ ตามกันมาคือ เสียงเรียกให้ทำบางอย่าง ที่เป็นเรื่องที่ควรทำ สิ่งอันตรายที่จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที ซึ่งไม่ว่าสิ่งนี้ จู่ๆ เกิดขึ้นกับใคร ก็ไม่มีใครเชื่อ หรือยอมรับง่ายๆ อย่างแน่นอน
เชื่อในสิ่งมหัศจรรย์ ที่ยังคงมีอยู่ในโลกใบนี้
ไม่ว่าที่ผ่านมา จะมีคนยืนยัน หรือมีนักวิทยาศาสตร์ พยายามหาคำตอบ กับสิ่งเร้นลับ สิ่งที่มองไม่เห็น และเป็นที่ค้นหาคำตอบกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมนุษย์ต่างดาว เอเลี่ยน สิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น หรือหนังประเภทเดียวกับ The X-Files ก็ตาม ที่คนดูต่างเชื่อว่า เป็นเรื่องที่ไกลเกินตัวเราจะหาคำตอบได้
เพราะในตอนต้นของหนังเรื่องนี้ นางเอกต่างโฟกัสไปที่ ทุกคนที่แวดล้อมตัวเธอ ที่ต้องเดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ ต่างมีความหวัง จุดมุ่งหมายของแต่ละคน ไม่ว่าการพยายามหาที่รักษาพยาบาล ให้กับคนรักของตัวเอง ที่ต้องเป็นโรคร้าย หรือการอยุ่ในระหว่างตัดสินใจ เรื่องความรักที่จะลงเอยกับใครสักคน แม้แต่การทำเพื่อคนส่วนรวม กับการหาวิธีการรักษาเด็กที่ป่วย ด้วยโรคที่มีเปอร์เซ็นต์การหายได้น้อยมากๆ
แต่สิ่งเหล่านี้ กลับโดนช่วงเวลา ที่กลุ่มคนบนเที่ยวบินนี้ เหมือนเวลาหล่นหายไป เปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ทุกอย่าง ให้เป็นไปในทางที่ดี และน่าใจหาย แต่เชื่อหรือไม่ว่า สิ่งที่มาเพิ่มหลังจากที่ทุกคนหายไป กลับเป็นเรื่องความสามารถพิเศษ ที่มาพร้อมกับการหายสาบสูญไปในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา
การได้ยินเสียงแปลกประหลาด กับการเข้าไปช่วยในเหตุการณ์ที่ตัวเอง ก็ไม่ได้รู้เรื่อง หรือรู้จักกับคนในเหตุการณ์นั้นๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นการบอกให้คนขับรถช้าลง เพราะจะมีเด็กวิ่งมาขวางกลางถนน หรือการเข้าไปช่วยเหลือเด็ก 2 คนที่โดนกักขังในโกดัง สิ่งเหล่านี้ไม่ว่าเกิดขึ้นกับใคร ก็ยากที่จะทำใจ
แต่ในฐานะที่เราเป็นคนดูหนังเรื่องนี้ นอกจากจะได้ความสนุก และการคาดเดาเหตุการณ์ว่า ความสามารถพิเศษนี้ อาจจะไม่ได้มีเพียงแค่ การได้ยินเสียงแปลกๆ เกิดขึ้นในหัว หรือในหูแบบหาสาเหตุที่่มา ที่ไปไม่ได้เท่านั้น แต่คงต้องมีอะไรมากกว่านี้ ที่ท้าทายให้คนดูเข้าไป ร่วมรู้กับเหตุการณ์ในตัวหนัง ที่จะสร้างพลอตให้น่าติดตามมากขึ้น
เพียงแค่ว่า นอกจากความน่าตื่นเต้น และการติดตามเนื้อเรื่องไปพร้อมกับตัวละครในเรื่องนี้แล้วนั้น Manifest ยังบอกเราในบางอย่างว่า จริงๆ แล้วสิ่งที่หาคำตอบไม่ได้ ไม่มีเหตุผล และหาสาเหตุไม่ได้ ยังมีอยู่ล้อมรอบตัวเราทุกคน เพียงแต่ว่าจะถึงเวลาที่ สิ่งเหล่านั้นต้องการบอก หรือปรากฏตัวให้เราแต่ละคน ได้สัมผัส หรือเห็นหรือไม่ ก็เท่านั้นเอง สลอต
https://filmdaily.co/news/manifest-new-season/