Living With Yourself ซีรี่ย์ที่เรียกว่าเป็นแนวคอมเมดี้ในสไตล์คนอเมริกันอย่างแท้จริง ที่มีทั้งความสุข เศร้าผสมปนเป ที่ไม่ใช่หนังให้แต่มุขตลกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเห็นหน้าพระเอกอย่าง พอล รัดด์ ที่รับบทที่เราคุ้นตาอย่าง Ant Man แล้วละก็อาจจะอยากดูให้จบถึงตอนสุดท้ายของซีซั่นเลยก็ว่าได้
แต่ในหนังเรื่องนี้ อาจทำให้ภาพของไมล์ที่เราคุ้นในบทซุปเปอร์ฮีโร่อีกตัว กลับกลายเป็นคนธรรมดา ที่ไม่ค่อยจะมีความโดดเด่นเรื่องอะไรเลย หรือเรียกว่าเป็นผู้ชายที่แสนธรรมดา อีกทั้งในช่วงเริ่มเรื่องให้เราได้เห็นถึงปัญหา ของความเป็นคนที่แสนธรรมดาของไมล์ ทั้งการเสนอโปรเจคไม่ผ่าน ไอเดียไม่เข้าตาหัวหน้า รวมถึงกลับมาบ้านยังมีปัญหากับแฟนสาวอย่าง เคท ที่ต้องการมีลูก แต่เขากลับคิดว่ายังไม่ถึงเวลา และเรื่องการเงินที่ยังไม่มั่นคงพอ จนทุกอย่างเหมือนสร้างแรงกดดันให้กับไมล์ ต้องไปสถานที่แห่งหนึ่งตามคำแนะนำของเพื่อนร่วมงานอย่าง แดน
Living With Yourself เป็นเรื่องดีจริงหรือที่จะให้คนอื่นมาเป็นตัวแทนเรา
คำแนะนำของแดนสำหรับร้านสปาที่ชื่อ To Happy Spa แต่แดนไม่ได้บอกรายละเอียดว่า ไมล์จะสามารถหาทางออกของปัญหาต่างๆ ได้ยังไงกับการมาที่นี่ รวมถึงที่แห่งนี้ช่วยเขาได้ยังไง แต่ข้อสงสัยนี้ไม่อยู่กับไมล์นาน ในที่สุดก็รู้ว่าการแก้ปัญหาที่จะช่วยเขาได้ สำหรับสปาแห่งนี้คือ การสร้างตัวโคลนนิ่งให้อีกคน เป็นคนใหม่ที่จะมีทุกอย่างเก่ง ฉลาด และเหนือกว่าคนเดิมทุกด้าน แต่ปัญหาอยู่ที่คนเดิมต้องโดนฝัง และหายสาบสูญไป เพื่อที่เว้นที่ให้กับร่างโคลนนิ่งมาสวมบทบาทแทน
เหตุการณ์ไม่ได้ง่ายแบบนั้นเมื่อ Living With Yourself ต้องการสานต่อเรื่องราวทั้งไมล์คนเดิม และไมล์ร่างโคลนนิ่งให้อยู่ด้วยกันก่อน ไมล์คนเดิมยังมีชีวิตรอด เพราะในช่วงเวลาที่เก็บคัวอย่างในการทดลอง แก๊สที่เป็นยาสลบเกิดติดขัด มีผลมาถึงระยะยาวที่กลายเป็นเรื่องน่าหนักใจ กับการมีไมล์ 2 คนในบ้านหลังเดียวกัน การแก้ปัญหาแบบง่ายๆ คือการที่สลับหน้าที่ โดยการให้ไมล์โคลนนิ่งไปทำงานแทน เพราะมีสมอง และไอเดียเป็นเลิศ ส่วนช่วงเวลานั้น ไมล์คนเดิมมาอยู่บ้านเขียนนิยายตามที่ต้องการ แต่ให้เดาก็รู้ว่า ความลับนี้คงอยู่ไม่นานอย่างแน่นอน เพราะในที่สุดเคทก็รู้ความจริง และต้องการให้ไมล์ที่เกิดจากการทดลองออกไปจากบ้าน ซึ่งเธอไม่รู้หรอกว่า ที่งานผ่านมาได้ และทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี เป็นเพราะไมล์ที่เป็นตัวโคลนนิ่งนี่แหละที่ช่วยทุกอย่างเอาไว้
คนเราเกิดมามีลักษณะเฉพาะ และข้อดีของตัวเอง
บางฉากที่เหมือนเป็นการหยั่งเชิงทั้งตัวละคนไมล์คนเดิม และคนดูด้วยว่าจะเข้าข้างคนไหนระหว่างไมล์คนเดิม กับไมล์คนใหม่ โดยที่ไมล์คนเดิมไม่เชื่อว่า ตัวเขาจะไม่สามารถทำงานได้เก่งเท่ากับตัวโคลนนิ่งได้ วันที่ต้องเสนอโปรเจค และพรีเซนต์งานต่อหน้าลูกค้า ปรากฏว่าไมล์ทำได้ไม่ดีพอ เพราะยังไงตัวเขาก็ยังเป็นตัวเขาอยู่ อาจไม่ได้หมายถึงความฉลาดน้อยกว่าไมล์อีกคน แต่หมายถึงเราไม่สามารถเป็นเหมือนอีกคนได้แบบ 100%
ในมุมกลับกันไมล์คนใหม่ หรือร่างโคลนนิ่งที่เหมือนเก่งทุกอย่าง มีเสน่ห์ และทุกคนในที่ทำงานต่างชอบเขา ในมุมคนที่ทำงานเก่ง และสร้างผลงานให้กับบริษัท แต่คนเราที่สมบูรณ์อย่างไมล์ร่างโคลนนิ่ง จะมีความเป็นมนุษย์แท้ๆ ได้ยังไง ในเมื่อไม่มีข้อเสีย หรือจุดบกพร่องให้มองเห็นเลย ในมุมคนที่อยู่รายล้อมรอบตัวเขา อย่างเพื่อนฝูง หรือคนที่ไม่ได้ใกล้ชิดอาจชอบ เพราะสามารถช่วยเหลือเรื่องานได้หมด แต่หากเป็นคนรัก หรือสามี ภรรยา คิดว่าจะน่าอึดอัดแค่ไหน กับคนที่เพียบพร้อม และไม่มีอะไรให้เป็นข้อเสียเลย อาจเป็นเราที่อึดอัดเองก็เป็นได้
บทบาทของไมล์ที่ช่วงแรก หลายคนอาจรู้สึกน่าเบื่อ และน่าอึดอัดกับผู้ชายคนนี้ ที่ดูไม่เก่งสักอย่าง โดยเฉพาะยิ่งเปรียบเทียบกับร่างโคลนนิ่งของเขาเองด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ไมล์คนเดิมโดนกดลงไปอีก แต่อะไรที่ Living With Yourself ต้องการสื่อผ่านคนดู ความสำคัญอาจไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่า เราจะเป็นคนที่เก่ง ฉลาด หรือเพียบพร้อมแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือ เราต้องมองเห็นค่าความสำคัญ และคุณค่าตัวเองว่า “เราก็มีดีเหมือนกัน”
อ่านบทความเพิ่มเติม
https://weloveserie.com/ซีรี่ย์ฝรั่ง/
เครดิตภาพ
https://google.com/