Heaven is for Real เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับเด็กชายคนหนึ่ง ที่เป็นลูกของนักเทศน์ของโบสถ์แห่งหนึ่งที่สหรัฐอเมริกา หนังเรื่องนี้ได้มีการนำเอาประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้น กับเด็กชายโคลตั้น เบอร์โบ มาเขียนเป็นหนังสือที่มีอันดับขายดีอีกด้วย และเชื่อว่าหลายคนที่ดูหนังเรื่องนี้จบ ต้องได้สิ่งที่กลับไปกับตัวเอง และโดยเฉพาะแต่ละคนจะได้ความรู้สึก และแง่คิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้ที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย
การจากโลกนี้ไปเป็นเรื่องที่ใครหลายคนกลัว และไม่อยากที่จะให้ถึงวันนั้น รวมถึงการคิดเลยไปไกลอีกว่า ถ้าเกิดต้องตายขึ้นมาจะทรมานมากหรือเปล่า และตายไปแล้วเราจะไปไหน สวรรค์ที่เราทุกคนต้องการไป และคิดว่าเป็นสถานที่ๆ มีแต่ความสุข หลุดพ้นจากทุกอย่าง ที่สำคัญเราจะไม่ต้องลงมาเกิดอีกแล้วใช่ไหม คำถามนี้โคลตั้นจะมีคำตอบให้ทุกอย่างสำหรับคนที่ดูเรื่องนี้
Heaven is for Real ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีเหตุและผลในตัว
การมีเหตุการณ์ที่เด็กผู้ชายคนนี้อย่างโคลตั้น ต้องมาเจอกับวิกฤติที่ตัวเองต้องตายไป วิญญาณที่หลุดออกจากร่างกาย แต่เรื่องไม่จบเพียงแค่นั้น ชีวิตหลังความตายที่หนังเรื่องนี้ต้องการบอก ให้เราหลายคนที่ดูผ่าน Heaven is for Real ว่าทุกสิ่งเกิดขึ้น เพื่อให้บางอย่างในอนาคตสมบูรณ์ เพียงแค่เราอาจจะมองไม่เห็นเพียงเท่านั้น
คริสเตียนที่ยึดพระเจ้าเป็นทุกสิ่งในชีวิต และทุกวันอาทิตย์มีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำอย่างขาดไม่ได้คือ การไปโบสถ์เพื่อยกวันอาทิตย์ เป็นวันที่พักผ่อนให้กับร่างกาย และจิตใจ และเป็นวันที่คริสเตียนเอาตัวเองกลับไปใกล้ชิดกับพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นคำสอน และการไปนมัสการพระเจ้า เพื่อเป็นการขอบคุณ และสรรเสริญกับทุกอย่างที่ได้รับมา แต่ในทางกลับกันนักเทศน์ที่เป็นพ่อของโคลตั้นนั้น กลับเป็นผู้ที่บอกและสอนคนที่มาโบสถ์ ในคำสอนของพระเจ้าว่ามีอะไรบ้าง ควรและไม่ควรคิด พูด ทำอะไร แต่กลับไม่ได้ลงลึก หรือเชื่อว่าพระเจ้ามีตัวตนอยู่จริง และที่สำคัญ ไม่เชื่อว่ามีสวรรค์อยู่จริง
ให้ความเชื่อนำหน้าความคิดและการพูด
การตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ของโคลตั้นนั้น เลยเหมือนเป็นการให้ลูกกลับมาบอกว่า หลังจากที่ตายไปแล้ว เด็กได้เห็นอะไรบ้างกับพ่อที่เป็นนักเทศน์ แต่กลับไม่มีความเชื่อในสิ่งที่ตัวเองสอนกับผู้คน ทั้งการที่โคลตั้นได้เจอกับพระเยซู ที่เดินมาหาและพาไปในที่ต่างๆ ที่เป็นความหมายถึงสวรรค์ ที่หนังแอบมีสอดแทรกความรู้สึกของเด็กแบบใสๆ ในประโยคที่โคลตั้นนั่งมองบนเวที มีทูตสวรรค์มาร้องเพลงกัน
โคลตั้นหันหน้าขึ้นมาพระเยซูและถามว่า อยากที่จะให้เปลี่ยนเพลงร้องเป็น We Will Rock You ได้ไหม แทนคำตอบพระเยซูจับมือโคลตั้นเดินออกมาจากสถานที่แห่งนั้น และก็มาถึงช่วงที่โคลตั้นฟื้นขึ้นมาในโลกความเป็นจริง และเป็นการบอกว่าโคลตั้นยังไม่ถึงเวลาที่จะจากโลกนี้ไป เพียงแต่การเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นสิ่งที่โคลตั้นต้องกลับไปเล่าให้กับพ่อของตัวเอง เพื่อที่จะหนักแน่นในสิ่งที่ตัวเองเคยบอก และสอนผู้คนในโบสถ์ ไม่ใช่เพียงแค่พูด แต่ต้องมีความเชื่อมาก่อน
ส่วนใหญ่เรามักจะเชื่อกับสิ่งที่มองเห็นเท่านั้น ทำให้เราติดที่จะยึดกับทั้งสิ่งของ และตัวคน ในการดำเนินชีวิตทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้าวของที่จะเป็นตัวผลักดันให้เรามีความขยันมากขึ้น หรือเชื่อในคำพูดของคน ในการยืนยันคำสัญญาต่างๆ ของคน แต่เรากลับมองไม่เห็นว่า บางอย่างที่เรามองไม่เห็นอย่างความเชื่อในเรื่องการได้ไปสวรรค์ เป็นความจริง Heaven is for Real เป็นสิ่งที่จะยืนยันว่า สวรรค์นั้นมีจริงผ่านการฟื้นขึ้นมาใหม่ของโคลตั้น และหากเราต้องการไปที่แห่งนั้น ผู้ที่จะพาเราไปได้มีเพียงผู้เดียวคือ พระเยซู อย่างที่หนังบอกให้เราได้เห็นว่า สิ่งนี้แป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเด็กชายที่ชื่อ โคลตั้นจริงๆ
https://www.washingtonpost.com/
สนับสนุนโดย
ไฮโลไทย , ไฮโลไทยได้เงินจริง , เกมไฮโลไทยเว็บตรง