
Two Summer เรื่องราวดราม่าเป็นหนังของประเทศเบลเยี่ยม ที่ความหมายของชื่อเรื่องเป็นการแบ่งภาค ช่วงฤดูร้อน 2 ครั้ง ในครั้งแรกจะเป็นเรื่องราวเมื่อสมัยวัยรุ่น ของกลุ่มเด็กมีเงินที่มาพักร้อนกันในสถานพักตากอากาศที่หนี่ง และเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีการทำอะไรแบบสุดกู่ หรือหลุดโลก เช่นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำไปแบบไม่มีสติ และมีการบันทึกภาพเก็บเป็นหลักฐาน ใครจะไปรู้ว่า วิดีโอนั้นจะอยู่มาถึง 30 ปีที่ทุกคนอายุ 50 ขึ้นไปกันทุกคน สิ่งเหล่านั้นกลับย้อนมาเอาคืนกับบางคนที่ทำผิดไป
ต่างเวลา วัยผ่านไป ทำให้ Two Summer ได้บอกอะไรเราหลายอย่าง
จริงๆ จะว่าเป็นสัจธรรมก็ได้ ที่คนในวัยอายุน้อย ก็อยากที่จะทำอะไรตามอิสระความคิด และความต้องการของตัวเองสักช่วงอายุ แต่เลยมาถึงช่วงวัยกลางคน หรือมากกว่านั้น อาจจะมีความคิดในมุมกลับว่า สิ่งที่เคยทำไปในช่วงวัยเลือดร้อนนั้น ไร้สาระและไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย แต่เชื่อเถอะว่า การคิดแบบนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาได้ แต่หนังเรื่องนี้กลุ่มผู้ชาย 4 คนที่ร่วมกันทำความผิดที่ผ่านมา กลับตกในวังวนแบบนี้ ที่หาทางแก้ปัญหาที่ได้ทำผ่านเลยมา 30 ปี
ในเช้าวันทำงานที่ปีเตอร์ ชายกลางคนที่มีทั้งภรรยา และครอบครัวที่อบอุ่น แต่กลับได้รับข้อความส่งมาแบล็คเมล์สำหรับวิดีโอรูปภาพ ในเหตุการณ์ตอนที่เขาเป็นวัยรุ่น และมีการล่วงเกินเพื่อนผู้หญิงในกลุ่ม โดยมอมเหล้าและล่วงละเมิดทางเพศ แต่จริงๆ แล้วหากดูมาถึงตอนที่ 4-5 เราจะเห็นว่าปีเตอร์รู้ตัว และไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำแบบนั้น แต่เพื่อนอีกคนในกลุ่มต่างหากที่คิดผิด และทำผิดแบบตั้งใจ Two Summer เลยตั้งโจทย์ให้ปีเตอร์ ว่าถึงแม้ในอดีตที่เขาไม่ได้มีความตั้งใจทำสิ่งนั้นไป และเพียงแค่ 100 บิทคอยน์ในการแลกภาพหลักฐานเหล่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ความผิดในใจที่ติดกับปีเตอร์ มันมากกว่าสิ่งที่เค้าต้องจ่ายเป็นตัวเงินอีก
เพื่อนก็คือเพื่อน แต่จะแท้หรือเทียมต้องพิสูจน์
ในวันแรกที่ทุกคนกลับมาเจอกันอีกครั้ง สำหรับกลุ่มเพื่อนที่ปีเตอร์ลุกขึ้นพูดกลางโต๊ะว่า ไม่ว่าตัวเขาจะผ่านการเดินทางมารอบโลก ผ่านการคุยต่อรองธุรกิจมาตลอดชีวิต เจอผู้คนมามากมาย แต่สุดท้ายคนที่เป็นเพื่อนแท้จริงที่สุด คือคนที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่เด็ก หรือวัยรุ่น สิ่งที่ปีเตอร์พูดอาจถูกในมุมของเขา แต่ใช่ว่าทุกคนจะคิดอย่างปีเตอร์
เพราะคนเราอยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าจะมีความรัก หรือให้ความจริงใจเหมือนกัน และนี่อาจเป็นบาดแผลที่เจ็บลึก เพราะความจริงใจที่เรามีให้ กลับได้รับตอบแทนเป็นอีกอย่าง ซี่งในตอนนี้ที่กลับมาเจอกันในวัยที่ทุกคน มีความคิด และเหตุผล แต่กลับแก้ไขเหตุการณ์ที่ทำผิดในอดีตไม่ได้
หนังอาจจะเหมือนเป็นการตีวงแคบ ให้คนดูต้องจมอยู่กับกลุ่มเพื่อนทั้งหมดนี้ตลอดทั้งเรื่อง เพียงแต่อาจจะตัดสลับในช่วงวัยรุ่น และในปัจจุบัน ให้ได้ผ่อนคลายกันบ้าง แต่ถ้าให้เปรียบเทียบ Two Summer ว่าชอบหน้าร้อนแบบไหนมากกว่ากัน คงต้องเลือกช่วงหน้าร้อนในวัยรุ่น ที่เหมาะกับความรู้สึกของหนังซีรี่ย์มากกว่า เพราะถ่ายกลับมาที่วัย 50 ขึ้นไปกันทุกคนแล้ว มีแต่การไม่ยอมรับ ปิดกั้นความคิดคนอื่น และเน้นตัวเองถูกที่สุด ซี่งดูๆ ไปก็คิดอยู่ว่า ถ้าคนรอบตัวเราเป็นแบบนี้แล้ว เราจะทนอยู่กับกลุ่มนี้ได้นานแค่ไหนกัน