The Rain ที่นำเอาเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ มาประกอบกับความดราม่า หนังไม่ได้อิงเพียงแค่ตัวฝน ที่เป็นพาหะนำพาเอาเชื้อไวรัส และเชื้อไวรัสที่เกิดผิดที่จากการที่ฝนตกทุกครั้งนั้น แค่คิดก็รู้แล้วว่า ไม่ใช่สิ่งที่มาจากธรรมชาติอย่างแน่นอน เป็นสิ่งที่มนุษย์ก่อปัญหาขึ้นมา จากการคิดค้นอะไรบางอย่าง ซึ่งจะบอกว่าเป็นประโยชน์ก็พูดไม่เต็มปาก
อีกทั้งหนังไม่ได้ให้เราดูเพียงแค่สนุก ไปกับการลุ้นให้ครอบครัวของเฟดเดอริค หัวหน้าครอบครัวรอดพ้นจากฝน และเชื้อไวรัสเพียงเท่านั้น บทบาทของพี่สาวคนโตอย่างซีโมน ลูกสาวในครอบครัวที่ไม่เคยต้องลำบาก หรือเผชิญอะไรด้วยตัวคนเดียวมาก่อน ใครจะรู้ว่านี่คือการท้าทายครั้งใหม่ในชีวิตของเธอ
The Rain วิกฤติฝนที่มาพร้อมกับเชื้อโรคร้าย
หนังเดินเรื่องเร็ว และเริ่มต้นก็บอกถึงความน่ากลัวของฝนที่กำลังตก โดยการที่พ่ออย่างเฟดเดอริค ต้องรีบมาหาลูกๆ ซีโมนและราสมุต และพากันอพยพไปจากเมืองนี้ แต่เหตุผลที่ทำแบบนั้น ยังไม่เปิดเผยให้คนดูได้รู้ ให้เราค่อยๆ ลุ้นตามเนื้อเรื่องของหนังไปเรื่อยๆ
ความสนุกของ The Rain อยู่ที่ สิ่งที่เราคาดไม่ถึงว่า แต่ละตอนจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เช่นการหลบหนี สุดท้ายก็คือฝ่ายที่เป็นพ่ออย่างเฟดเดอริคนั้น ได้มีการเตรียมแผนไว้ล่วงหน้า โดยมีบังเกอร์ไว้สำหรับครอบครัวตัวเอง เพื่อหลบหนี มากกว่านั้นบังเกอร์ยังมีการสร้างกระจายไว้หลายที่อีกด้วย
แต่สิ่งที่น่าสยองปนกับความน่าเศร้าคือ การตัดสินผิดของซีโมน เมื่อพ่อของเธอออกไป และทิ้งสามคนที่เหลือไว้ในบังเกอร์ ซีโมนเปิดประตูให้กับคนที่มาเคาะบังเกอร์แบบไม่ทันคิด สุดท้ายกลายเป็นแม่ของเธอต้องรีบออกมาช่วย และบอกให้เด็กๆ ปิดประตูบังเกอร์ พร้อมกับฉากที่ฝนตกพร้อมกับสภาพแม่ของพวกเธอ ค่อยๆทรมานและตายลง
เราแกร่งได้มากกว่าวันนี้ เห็นได้จากช่วงเวลาที่แย่ที่สุด
อย่างที่บอกไปว่า หนังเรื่องนี้อาจไม่ได้เป็นเพียงเนื้อหาที่เกี่ยวกับทางวิทยาศาสตร์ หรือหนังเชื้อโรคเท่านั้น แต่มาพร้อมกับความดราม่าที่เข้ามาแทรก ถือว่าเป็นการผสมผสานอย่างดี ในตัวละครอย่างซีโมน เด็กสาวที่ไม่ได้ผ่านประสบการณ์อะไร ที่ช่วยเสริมให้เธอต้องแข็งแกร่ง หรือแม้กระทั่งการดูแล ปกป้องน้องสาวอย่างราสมุตเลย
แต่ทุกอย่างเหมือนเข้ามาในชีวิตเธอ เพื่อไม่ให้เธอตอบปฏิเสธ แต่ต้องทำเท่านั้น ทั้งการดูแลน้อง การทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ ในขณะที่พ่อของเธอขาดการติดต่อไป 5 ปี จนราสมุตโตเป็นหนุ่ม และหนังก็ทำได้ดีจากวันที่เธออ่อนแอจนถึงที่สุด มาถึงท้ายเรื่องที่เราสามารถมองเห็น ความเข้มแข็ง และการตัดสินใจที่ดีขึ้นในตัวของซีโมนได้
หนังอาจจะไม่หวือหวาโดยที่เน้นความน่ากลัว สยดสยองเท่าไหร่ กับเรื่องราวเชื้อโรค โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เด็กๆ ต้องอยู่ในบังเกอร์ผ่านเวลามาหลายปี แต่ The Rain ก็รู้จักที่จะรู้ว่า ช่วงไหนที่คนดูเริ่มเกิดความรู้สึกเบื่อ ก็จะมีซีนที่เหมือนการกระตุกต่อมความอยากรู้ และเหตุการณ์ที่เข้ามาอย่างคาดไม่ถึง แต่สิ่งที่ดีกว่านั้นคือ เราจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเรามีขีดความสามารถมากกว่า ที่เราคิดไว้จากสถานการณ์ที่ลำบาก
https://www.rottentomatoes.com/tv/the_rain/s01
https://www.inverse.com/article/44101-netflix-horror-series-the-rain-may-release