Wanderlust พูดถึงเรื่องราวที่เหมือนเป็นปัญหาโลกแตก เมื่อชีวิตหลังแต่งงานของใครหลายคน ที่ผ่านเวลาการอยู่ด้วยกันมานาน หรือไม่บางคู่อาจเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นที่เริ่มรู้สึกว่าเกิดอาการเบื่อหน่ายชีวิตคู่ หรือมากกว่านั้นอาจเซ็งกับคู่รักของตัวเอง จนทำให้มีปัญหาบานปลายไปถึงเรื่องบนเตียง และใครหลายคนต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะมักเป็นสาเหตุลุกลามให้เกิดปัญหาด้านอื่นๆ ในชีวิตคู่ได้แบบไม่ยาก
ชีวิตคู่ของจอยกับอลัน ก็เรียกว่าไม่ได้แปลกอะไร ถ้าจะมีปัญหาเรื่องการรู้สึกว่า เมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายต้องการมีเซ็กซ์ด้วย มักจะตามมาด้วยความรู้สึกติดขัดของอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเครียดทางอารมณ์ จังหวะไม่ได้ หรือมีอะไรมากกว่านั้นที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถพูดออกมาได้ แต่สรุปคือ มันทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่แย่ลงไปเรื่อยๆ แต่การแก้ปัญหาของคนทั้งคู่ กลับเป็นการยิ่งทำให้ปัญหาเดิมของทั้งสองฝ่ายย่ำแย่กว่าเดิม โดยการหาทางออกด้วยการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น เพื่อช่วยให้เกิดความตื่นเต้น
ทางแก้ไม่ได้ง่าย และไม่ได้ยากเหมือนที่เราคิดไว้ใน Wanderlust
หลายปัญหาที่เหมือนจะแก้ไขยาก แต่จริงๆ แล้วถ้าเราผ่านมันมาได้แบบถูกวิธี เราจะมองเห็นเลยว่า มันแก้ง่ายแบบทางออกอยู่ใต้จมูกเราแค่นั้นเอง เราคงจะเห็นใน Wanderlust แล้วว่า หลายต่อหลายครั้งที่จอยพยายาม ที่จะทำให้เรื่องบนเตียงของเธอกับสามีไปได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหาชุดนอนที่เซ็กซี่ ปลุกเร้าอารมณ์สามี แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับอารมณ์ของอลัน ที่ไม่ปกติมากกว่าทั้งเรื่องเครียดที่ทำงาน และการไม่พยายามเข้าใจว่า ตัวเองมีส่วนในปัญหาที่เกิดขึ้น
อาจเป็นเพราะจอยทำงานเป็นนักจิตบำบัด ดังนั้นเธอจะมองปัญหาได้ลงลึกมากกว่าตัวสามี แต่ไม่ว่าใครจะทำงานเป็นอะไรก็ตาม ทุกคนต่างเป็นมนุษย์ ที่หลายต่อหลายครั้งก็ไม่สามารถจัดการกับ ปัญหาของตัวเองได้ และมักจะเป็นเหมือนปลาที่ตายน้ำตื้น ปัญหาจึงจำเป็นต้องหาทางแก้ทั้งสองฝ่าย และอย่างที่บอกจริงๆ การหาทางออก หรือทางแก้ไขไม่ได้ยากอย่างที่เราหลายคนคิดกัน
ทางแก้ที่รู้สึกว่าเป็นความสุข แต่ยิ่งทำให้เกิดปมซับซ้อนกว่าเดิม
โดยที่หนังต้องการบอกเราให้มองเห็นเป็นภาพชัดเจนเลยว่า หากทั้งคู่คือ ทั้งจอย และอลันมีวิธีแก้ปัญหาแบบเดียวกัน คือเมื่อเรื่องบนเตียงไปด้วยกันไม่ได้ หรือเกิดอาการเซ็งซึ่งกันและกันแล้ว ก็หาความตื่นเต้นจากคนอื่นที่เราไม่รู้จัก หรือทำตัวเหมือนตกหลุมรักใครอีกคนเป็นครั้งแรกดูบ้าง เพราะเรื่องแบบนี้มักจะทำให้เราตื่นเต้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
แต่ทั้งคู่ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาทีหลัง กับอารมณ์ที่เกิดจากความไม่มีเหตุผลหลังจากนั้น เมื่อเรามีคู่แต่งงานอยู่แล้ว มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอีกคน และหลังจากนั้นหากเราต้องการตัดความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากนี้ เราจะเลือกตัดใครระหว่าง คู่แต่งงานของตัวเอง หรือคนที่มาทีหลัง ที่เราก้าวขาแหย่เข้าไปเอง
ซีรี่ย์เรื่องนี้มีข้อดีที่ว่า เนื้อเรื่องไม่ยาวจนเหมือนขายจุดที่ไม่น่าสนใจให้คนดู ในแต่ละซีน หรือในแต่ละตอนเลยเหมือนเป็นการเจาะลึกถึงใจคนดูไปด้วยว่า คนเขียนบทรู้ว่าคนดูต้องคิดแบบนี้ และก็สร้างปัญหาให้ตรงกับชีวิตจริง รวมถึงการแก้ปัญหาได้ตรงจุด Wanderlust เลยเหมือนเป็นทั้ง เลิฟสตอรี่ที่อิงแนวดราม่าเข้ามาด้วย และบอกให้เราได้เห็นว่าไม่ว่าใครจะทำงานใหญ่โตแค่ไหน หรือคอยให้ความช่วยเหลือ เป็นที่ปรึกษาด้านปัญหาให้ใครต่อใครก็ตาม ทุกคนมีสิทธิที่จะตัดสินใจพลาดเหมือนกันหมด เพียงแต่ต้องรู้ตัวให้เร็ว และกลับตัวให้ทันเท่านั้นเอง