The Starling ถือว่าเป็นซีรี่ย์แนว่ฟีลกุ๊ด ที่มีเนื้อหาและตัวละคร ที่ไม่ได้หลุดไปไกลจากชีวิตจริงเราทุกคนกันเลย อาจมีหนัง หรือซีรี่ย์ในแบบเดียวกัน ที่มีข้อคิด และเป็นกระจกส่อง เมื่อเจอกับปัญหาตัวละครเป็นอย่างไร และรับมือได้ดีแค่ไหน รวมถึงลำดับขั้นในการแก้ไขปัญหานั้น ค่อยๆ ดีขึ้นได้อย่างไร แต่ในบางเรื่อง อาจหลุดกรอบทั้งเรื่องราว หรือตัวละครไกลจากชีวิตประจำวัน เช่น ตัวละครที่เป็นออทิสติก หรือย้อนยุคไปไกล
เรื่องราวเน้นไปที่ความเรียบง่าย ตัวละครไม่เยอะมากมาย แต่เป็นตัวละครที่จำเป็น และมีความเกี่ยวข้องกับลิลลี่ และแจ็คส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสัตวแพทย์ที่ชือ แลร์รี่ ที่เคยเป็นจิตแพทย์มาก่อน หรือกลุ่มบำบัดผู้ป่วยจิตเวช ที่มีปัญหาชีวิตคู่ แต่สำหรับคู่ของลิลลี่ และแจ็ค ในการเลิกรากัน อาจแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ที่เป็นเพียง ความคิดไม่ลงรอยกัน มีการตัดสินใจบางอย่าง ที่ไปด้วยกันไม่ได้
เมื่อต้องสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต The Starling สอนให้รู้จักอะไรบ้าง
ชีวิตเรื่องราวของลิลลี่ ผู้เป็นแม่ และแจ็คสามีของเธอ ที่ได้รับของขวัญจากพระเจ้า ที่ดีที่สุดคือลูกน้อยที่เกิดมา พร้อมกับการช่วยกันสร้างห้องลูก และทาสี วาดรูปในห้องร่วมกัน จนวันหนึ่งลูกที่เป็น สิ่งมีค่าที่สุดสำหรับคนทั้งคู่ กลับเสียชีวิตไปด้วยโรคไหลตาย ชีวิตของคนทั้งคู่ ก็เหมือนตายจากร่างกายไปด้วยเหมือนกัน
เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งแจ็ค และลิลลี่ต้องแยกที่อยู่กัน และต่างฝ่ายก็มีแผลในใจ ที่มากกว่าการตั้งตันนับหนึ่งใหม่ แต่น่าจะเป็นชีวิตที่ติดลบ เพราะส่วนของลิลลี่ จากที่ทำงานอยู่ซุปเปอร์สโตร์ ก็ต้องกลับมาที่บ้านของเธอเอง ในการมีความคิดริเริ่มที่จะทำสวนหน้าบ้านใหม่ รวมถึงแจ็คที่มีอาการย่ำแย่ยิ่งกว่า ชีวิตหมดหวัง ไม่อยากทำอะไรเลย รวมถึงยารักษาที่หมอจ่ายให้กินประจำ ก็เอาไปเก็บไว้ในรองเท้า
รวมถึงทางลิลลี่ ก็ใช่ว่าจะผ่านพ้นปมในใจ สำหรับเรื่องการจากไปของลูกสาวได้ เธอยังต้องผจญกับเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ได้เล็กเลยสำหรับตัวเธอ กับปัญหานกเอี้ยงที่เข้ามาก่อกวน และจิกหัวเธอทุกครั้ง ที่มาทำสวนหน้าบ้านใหม่ The Starling เลยกลายเป็นแสงสว่าง หลังความมืดมนในชีวิตที่เข้ามา และไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เจอกับ แสงนำทางชีวิตครั้งใหม่แบบนี้
เรื่องเล็กๆ ก็อาจเป็นเรื่องใหญ่ได้ หากเราไม่รู้ทางแก้ที่ถูกต้อง
ในชีวิตของแจ็ค และลิลลี่กับการสูญเสียลูกสาวไป ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว สำหรับชีวิตคนเป็นพ่อ และเป็นแม่ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดปัญหาเล็กๆ หรือมรสุมลูกใหญ่เข้ามาในชีวิตเราทุกคน หากเรามีทางออก และทางแก้ปัญหาเรื่องนั้นๆ ให้ถูกจุด และค่อยๆ แก้ไปทีละเปราะ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค หรือเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้น ก็จะค่อยๆ บรรเทาจากร้ายเป็นดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่ถ้าหากเรายังจมกับเรื่องเดิมๆ ปัญหาที่วนไปมาในหัว เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ยังวนเวียนกับชีวิตในวันนี้ของเราอยู่ ก็เหมือนกับนกเอี้ยง ที่คอยตามจิกหัวของลิลลี่อยู่ตลอด และหากลิลลี่ไม่ได้ผู้ช่วยชี้แนะ วิธีแก้ปัญหานกตัวนี้ ที่เมื่อไหร่เธอมาทำสวนหน้าบ้าน ก็โดนทำร้าย แถมงานสวนกลับโดนขัดขวางเพียงแค่ นกตัวเดียวเท่านั้น
ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผู้ที่เจอกับปัญหาจริงๆ และหากผ่านพ้นมาได้ ก็เหมือนกับหนังเรื่องนี้ The Starling ที่เราจะเจอแสงสว่างนำทางใหม่ โดยที่ไม่หันกลับไปจมกับเรื่องราวในอดีต และผ่านมาได้แบบมองทุกอย่างด้วยความเข้าใจ แต่ไม่ใช่การหลอกตัวเอง หรือหนีปัญหาเพื่อให้ผ่านไปวันๆ เท่านั้น
https://variety.com/2021/film/reviews/the-starling-review-melissa-mccarthy-1235062162/