Breaking Bad จะเรียกว่าเป็นหนังซีรี่ย์ม้ามืดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ ที่มีการตั้งเนื้อหาที่มีความน่าสนใจ และไม่สนใจว่า จะทำให้คนดูเกือบจะไปไม่เป็น กับการหักมุมตัวละครตั้งแต่เริ่มต้นเรื่องเลยทีเดียว กับบทอาจารย์สอนเคมี วอเตอร์ ไวท์ ที่คงเหมือนกับคนที่ทำหน้าที่ ครู อาจารย์ ทั่วๆ ไปที่เคร่งในกฎระเบียบ และความถูกต้อง ถึงแม้ปัญหาทั้งเรื่องครอบครัว การเงิน จะจวนตัวมากขึ้นเรื่อยๆ กับการหาเงินไม่พอใช้ ถึงแม้ตัวเขาจะรับงาน 2 ที่ทั้งการเป็นอาจารย์ และทำงานที่ร้านล้างรถ จากคนที่คอยคุมเครื่องแคชเชียร์ กลายมาเป็นคนคอยล้างรถ เพราะคนล้างรถไม่พอ กับวัย 50 ปีขึ้นไป
ใครจะรู้ว่ากับเด็กนักเรียนในห้อง ที่เคยเป็นประเด็นกับเขา ที่วอเตอร์ เคยติงว่านั่งคุยในห้องเรียน จนวันที่เด็กคนนั้นเรียนจบแล้ว ตัววอเตอร์ในวันหนึ่งต้องเป็นผู้ช่วย ที่ตำรวจขอให้มาด้วย เพื่อพิสูจน์ตัวยาเสพติดในแก๊งส์ค้ายา และในวันนั้นมีวอเตอร์เพียงคนเดียว หลังจากที่ตำรวจทุกนายเข้าไปในบ้าน ที่มีการรวบตัวคนปรุงยา เขาได้เห็นนักเรียนที่สอน และมีปัญหากันครั้งหนี่งอย่าง พิ้งค์แมน กระโดดลงมาจากห้องข้างบน โดยที่ไม่มีตำรวจคนไหนเห็นเขา
Breaking Bad ดีแตก หรือภาวะถังแตก
ความรู้สึกแรกที่พิ้งค์แมนตลกไม่ออก เมื่อหลังจากเหตุการณ์การจับกุม ตัวคนปรุงยาในบ้านหลังหนี่งเรียบร้อยแล้ว วอเตอร์กลับมาหาเขาที่บ้าน และบอกความต้องการว่า ในตอนนี้ที่พิ้งค์แมนไม่มีคนปรุงยาให้แล้ว อีกทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ก็โดนยึดไปด้วย ข้อเสนอที่บังคับให้นักเรียนของวอเตอร์ ต้องมีคำตอบเพียงอย่างเดียวคือ ร่วมมือกันระหว่างฝ่ายที่ออกทุน และอีกฝ่ายที่เป็นคนผลิต Breaking Bad เลยมีคำที่สะดุดหู เหมือนชื่อหนังเรื่องนี้ตรงที่ พิ้งค์แมนถามวอเตอร์ว่า คิดยังไงถึงมาดีแตกเอาตอนนี้ ที่อายุ 50
คำตอบที่ควรจะได้ กลับเป็นสิ่งที่วอเตอร์ถามกลับมาที่ นักเรียนของเขาว่า และการที่พิ้งค์แมนเข้ามาสู่วงการค้าสิ่งเสพติดนี้ เพราะอะไร คำตอบที่ได้เหมือนกัน และจบเรื่องตรงนี้คือ เงินเป็นเรื่องหลัก และทุกคนก็เจอปัญหาเรื่องเงินกันมาก่อน ที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องนี้ ไม่ใช่ไม่รู้ แต่รู้แล้วก็ยังหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ กับภาวะเงินไม่พอใช้ และเป็นเรื่องธรรมดาที่พิ้งค์แมนจะดูถูกอาจารย์ตัวเองก่อนว่า จะทำได้หรือไม่กับการหันมาผลิตยาแบบนี้ จากคนที่เคยเป็นอาจารย์สอนวิชาเคมี และใครจะรู้ว่าผลลัพธ์จากการผลิตออกมาล็อตแรกคือ เป็นผลึกที่บริสุทธิ์ และมีคุณภาพดีแบบที่ สามารถเรียกราคาได้มากกว่าที่ พิ้งค์แมนเคยขายๆ มาอีก
ทุกเส้นทาง และทุกการเลือกไม่ได้ราบรื่นเสมอไป

ไม่เพียงแต่การตัดสินใจ ที่จะเข้ามาร่วมมือกันทำธุรกิจในครั้งนี้ ระหว่างลูกศิษย์ที่ไม่เอาไหนเลย ในชั้นเรียนกับ อาจารย์ที่เคร่งต่อระเบียบ กับการเปลี่ยนเส้นสายอาชีพครั้งใหม่นี้ แต่สิ่งที่สำคัญไม่เพียงแค่ การมีสินค้าดีในมือเท่านั้น แต่ต้องมีเส้นสายที่ใหญ่พอ เพราะอุปสรรคที่สำคัญคือ ลูกค้าเก่าของพิ้งค์แมน กลับมาหักหลังเขาโดยการข่มขู่วอเตอร์ ให้บอกวิธีการ และสูตรที่ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากบอกให้ง่ายๆ
หนังช่วง 3 ตอนแรก หมดเวลาไปกับการหาวิธีกำจัด คู่ค้าของพิ้งค์แมนว่าจะฆ่าแบบไหนดี ไม่ว่าจะเป็นการละลายด้วยกรดเคมี หรือฆ่าด้วยวิธีง่ายๆ และเก็บหลักฐาน แต่ไม่มีใครกล้าที่จะทำ ไม่ว่าจะเป็นตัวอาจารย์ หรือนักเรียนอย่างพิ้งค์แมน และความที่ไม่กล้า และปล่อยให้ปัญหานี้คาราคาซัง จนกลายเป็นเรื่องบานปลายมากขึ้น เมื่อภรรยาของวอเตอร์ เริ่มสงสัยว่าทำไมสามีเธอ มีการติดต่อกับลูกศิษย์อย่างพิ้งค์แมน และสิ่งที่วอเตอร์โกหกเธอ ก็ใช่ว่าเธอจะเชื่อง่ายๆ ด้วย
แท้ที่จริงแล้ว ปัญหาเพียงอย่างเดียว อาจไม่ทำให้เราต้องหาทางออกผิดๆ แต่ความกดดันทั้งเวลา และหลายอย่างเข้ามาพร้อมกัน ทำให้คนเรามักจะขาดสติ และคิดว่ารอการหาวิธีแก้ไขอื่นไม่ได้อีกแล้ว Breaking Bad ก็เหมือนกับน้ำอัดลม ที่มีการเขย่ามากๆ จนฝาปิดขวดระเบิดพุ่งออกมา และนาทีนั้นผลจากการเลือกเส้นทางที่ไม่ควรจะเลือก จะเป็นใครไปไม่ได้ ที่จะต้องรับผลแห่งการเลือก และทำคงต้องเป็นทั้งพิ้งค์แมน และตัวของอาจารย์วอเตอร์เอง ที่ทั้งป่วยด้วยมะเร็งปอดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คนดูบางคนอาจถามแทนตัววอเตอร์ว่า จะมีอะไรที่แย่ไปกว่านี้อีกมั้ยก็เป็นได้